รากฟันเทียม การทดแทนฟันธรรมชาติที่ดีที่สุด

รากฟันเทียม คือ วัสดุที่ทำขึ้นมาเพื่อทดทแทนรากฟันจริงที่หายไป โดยจะทำจากไทเทนียม ซึ่งเป็นวัสดุที่ทนทาน เข้าได้ดีกับร่างกายมนุษย์โดยไม่มีผลข้างเคียง ในการรักษา รากเทียมจะถูกฝังลงในไปในกระดูกเพื่อเพื่อทดแทนฟันที่หายไปตั้งแต่ 1 ซี่ จนไปถึงฟันหายทั้งปากหรือ เอามาช่วยในการยึดติดกับฟันปลอม หรือทำฟันปลอมแบบติดแน่น 

ในปัจจุบันการรักษานี้ถือเป็นการทำฟันปลอมที่ดีที่สุด เพราะมีความคล้ายฟันธรรมชาติ ติดแน่น ไม่ต้องถอดออก เข้าได้ดีกับเนื้อเยื้อและเมื่อเมื่อเวลาผ่านไปรากฟันเทียมจะยึดติดกับส่วนเดียวกับกระดูก

เหมาะกับใคร

กาารักษาด้วยการฝังรากฟันเทียมนั้น เหมาะกับ:

  • บุคคลที่ฟันสูญหายจากอุบัติเหตุ หรือการได้รับอาการบาดเจ็บจากแรงกระแทก
  • บุคคลที่สูญเสียฟันทั้งปาก หรือ ด้านใดด้านหนึ่ง
  • บุคคลที่กระดูกกรามละลายหรือได้รับความเสียหายอันเกิดมาจากโรคทางทันตกรรมต่างๆ เช่น โรคเหงือก โดยการฝังรากเทียมจะช่วยรักษามวลกระดูกที่เหลืออยู่และช่วยเร่งการฟื้นฟูกระดูกในร่างกาย
  • บุคคลที่สูญเสีบฟัน และปฏิเสธการใส่ฟันปลอมแบบถอดได้

ส่วนประกอบ

ส่วนประกอบของตัวรากเทียม ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่:

  1. Implant body (Fixture): คือ ส่วนที่ฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกร เป็นตัวแทนรากฟันจริงและช่วยยึดส่วนอื่นๆ เพื่อความมั่นคง มีลักษณะคล้ายสกรู
  2. Abutment: คือ เป็นตัวกลางช่วยเชื่อมระหว่างตัว Implant body และ ตัวครอบฟันด้านบน
  3. Crown: คือ ส่วนฟันเซรามิกที่ยึดกับตัว Abutment ทำหน้าแทนเนื้อฟันธรรมชาติที่ไว้ใช้บดเคี้ยวอาหาร

ประเภท

รากฟันเทียม สามารถแบ่งได้ง่ายๆ เป็น 5 แบบ ได้แก่:

  1. แบบ 1 ซี่ (single tooth): เหมาะสำหรับการทดแทนฟัน 1 ซี่ โดยที่ไม่กระทบฟันซี่ข้างๆ เช่น การทำสะพานฟัน ที่ต้องมีการใช้ฟันด้านข้างเป็นตัวยึด
  2. แบบหลายซี่ (multiple dental implants): เหมาะสำหรับการทดแทนฟันหลายซี่ในพื้นที่เดียวกัน โดยที่ยังพอเหลือฟันด้านข้างเพื่อไว้เป็นตัวยึด
  3. แบบฟันหายเป็นจำนวนมาก (implants support bridge): เป็นรากฟันเทียมเพื่อใช้ทดแทนฟันที่สูญหายเป็นจำนวนมากและไม่เหลือฟันด้านข้างไว้เป็นตัวยึด โดยการรักษานี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงมากกว่าเมื่อเทียบกับแค่การรักษาด้วยสะพานฟัน
  4. แบบทดแทนฟันที่หายไปทั้งปาก (implants over denture): เหมาะสำหรับการทดแทนฟันที่หายไปทั้งปากหรือเกือบทั้งหมด
  5. แบบ All on 4: เป็นการฝังรากเทียมด้วยเทคนิคพิเศษ โดยจะฝังรากฟันเทียมจำนวน 4 ซี่ เพื่อช่วยประคองฟันบนหรือฟันล่างทั้งชุด เหมาะผู้ที่ต้องการทดแทนฟันที่หายไปทั้งปากหรือเกือบทั้งหมดแต่ไม่มีมวกระดูกที่มากพอทำแบบ (implants over denture)

ข้อดีของการรักษา

รากฟันเทียม มีข้อดีต่างๆ ดังนี้:

  1. มีประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหารได้ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติที่สุด
  2. ไม่ส่งผลกระทบกับฟันซี่ข้างเคียง เพราะการรักษานี้ ไม่จำเป็นต้องกรอฟันซี่ข้างเคียงแบบสะพานฟัน
  3. ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพและความมั่นใจเวลายิ้ม
  4. ช่วยรักษาโครงสร้างของกระดูกขากรรไกร การที่ฟันหายไปจะทำให้กระดูกขากรรไกรยุบตัวลงได้ การทำรากเทียมจะช่วยรักษาโครงสร้างของกระดูกขากรรไกรให้คงอยู่
  5. ช่วยลดปัญหาฟันปลอมหลวม ใช้ช่วยยึดในงานปันปลอม ทำให้มีคุณภาพชีวิต และคุณภาพการเคี้ยวที่ดีขึ้นมาก

ขั้นตอนการรักษา

การรักษาด้วยรากเทียมมี 5 ขั้นตอน ดังนี้:

  1. วางแผนการรักษา – ทันตแพทย์จะประเมินสุขภาพช่องปากและความหนาของกระดูกโดยใช้เอกซเรย์ CBCT 3D เมื่อประเมินเสร็จแล้ว ทันตแพทย์จะเลือกขนาดของรากเทียมที่จะใช้และแจ้งว่าจำเป็นต้องปลูกกระดูกหรือไม่
  2. ผ่าตัดฝังรากเทียม – การผ่าตัดฝังรากเทียมจะใช้เทคโนโลยีดิจิตอล (Digital Guide) เพื่อช่วยในการผ่าตัด ทำให้การผ่าตัดมีแผลเล็ก แม่นยำ ปวด บวม น้อย หลังผ่าตัดจะรอให้ตัวรากเทียมยึดติดกับกระดูกประมาณ 4-6 เดือน
  3. รอให้รากเทียมยึดติดกับกระดูก – หลังจากผ่าตัดฝังรากเทียมแล้ว จะต้องรอให้รากเทียมยึดติดกับกระดูกประมาณ 4-6 เดือน ในระหว่างนี้ ควรดูแลทำความสะอาดช่องปากให้สะอาดและหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็งๆ
  4. ใส่ครอบฟันหรือสะพานฟัน – เมื่อรากเทียมยึดติดกับกระดูกแล้ว ทันตแพทย์จะนัดมาพิมพ์ปากหรือสแกนฟันเพื่อทำครอบฟันหรือสะพานฟันบนรากเทียม
  5. ติดตามผลการรักษา – หลังใส่ครอบฟันหรือสะพานฟันแล้ว ควรมาติดตามผลการรักษาทุกๆ 6 เดือน เพื่อตรวจดูความแข็งแรงของรากเทียมและครอบฟันหรือสะพานฟัน

ราคาและยี่ห้อ

รากฟันเทียมจะมีราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 – 50,000 บาท ต่อซี่ โดยที่ทางเราให้บริการอยู่ จะมีอยู่ทั้งหมด 6 ยี่ห้อ ดังนี้:

  1. Biotem (จากเกาหลี)
  2. Osstem (จากเกาหลี)
  3. Neodent (จากบราซิล)
  4. Ankylos (จากเยอรมนี)
  5. Camlog (จากเยอรมนี)
  6. Straumann (จากสวิตซ์เซอร์แลนด์)

ด้านล่างนี้คือรายละเอียดในส่วนของค่าใช้จ่ายของทางคลินิกเรา:

บริการราคา
CT Xray2,500-3,000 บาท
Korea implant30,000 บาท รวมครอบฟัน based metal with porcelain
Korea Implant35,000 บาท รวมครอบฟัน Zirconia
Neodent Implant by Straumann47,000 บาทรวมครอบฟัน
Ankylos Implant Germany55,000 บาทรวมครอบฟัน
Camlog Implant Germany65,000 บาทรวมครอบฟัน
ITI Straumann Implant75,000 บาทรวมครอบฟัน

ข้อแตกต่างกับฟันปลอมถอดได้

รากฟันเทียมถือเป็นการทำฟันปลอมที่เรียกว่าฟันปลอมติดแน่น เพราะจะถูกฝังเข้ากับกระดูกขากรรไกร และเมื่อเทียบกับฟันปลอมถอดได้แล้ว จะมีข้อแตกต่างหลักๆ ดังนี้:

  • ประสิทธิภาพในการใช้งาน: รากฟันเทียมนั้นมีประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีกว่าการทำฟันปลอมแบบถอดได้ รวมไปถึงความสะดวกสบายในการใช้งานด้วย เพราะตัวฟันจะยึดติดแน่นในกระดูก ทำให้สามารถใช้บดเคี้ยวได้เป็นธรรมชาติ
  • อายุการใช้งานและการดูแลรักษา: รากเทียมนั้นมีความแข็งแรง ทนทานสูง สามารถใช้งานได้ยาวนาน โดยอาจจะตลอดชีวิตหากดูแลรักษาดี นอกจากนี้ วิธีการรักษาทำความสะอาดนั้นก็ง่าย ไม่ซับซ้อน เหมือนกันการดูแลฟันปกติทั่วไปได้เลย ในขณะที่ฟันปลอมนั้น มีอายุการใช้งานโดยเฉลี่ยประมาณ 5-10 ปี ก่อนที่จะต้องทำการเปลี่ยน และยังมีการดูแลรักาษาที่มากกว่าหลายขั้นตอน เช่น การถอดแช่น้ำไว้ก่อนนอน เป็นต้น
  • ระยะเวลาในการรักษาและฟื้นตัว: การฝังรากเทียมนั้น มีขั้นตอนการรักษาที่ซับซ้อนและเยอะกว่าอย่างมาก และหลังรักษาเสร็จ ก็อาจใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน เพื่อให้กระดูกโดยรอบฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ในขณะที่ฟันปลอมนั้น มีเพียงแค่ขั้นตอนการพิมพ์ฟัน และอื่นๆ อีกเล็กน้อย จึงทำให้สามารถรักษาเสร็จได้เร็ว ไม่ซับซ้อน และคนไข้สามารถฟื้นตัวได้ภายในไม่กี่วัน
  • ราคา: รากฟันเทียมนั้นมีค่าใช้ในการรักษาที่สูงกว่าฟันปลอมมาก แต่ในรยะยาวแล้ว รากเทียมอาจเป็นการรักษาที่คุ้มกว่า เพราะแทบไม่ต้องมีการเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ในขณะที่ฟันปลอมอาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยน ซ่อมแซม และ อื่นๆ เพิ่มเติม

ข้อแตกต่างกับสะพานฟัน

รากฟันเทียมและสะพานฟันเป็นวิธีการทดแทนฟันที่สูญเสียไปแบบติดแน่นเหมือนกัน แต่ทั้งสองก็มีข้อแตกต่างหลักๆ ดังนี้:

  • ความแข็งแรง: รากฟันเทียมจะยึดติดเข้ากับกระดูกขากรรไกร ทำให้มีความแข็งแรงมากกว่าสะพานฟันที่ต้องใช้ฟันซี่ข้างๆ เป็นตัวยึด
  • ความสวยงาม: รากเทียมจะดูมีความเป็นธรรมชาติมากกว่าสะพานฟัน ที่อาจจะสามารถสังเกตได้ตรงเหงือกเมื่อเวลาผ่านไป
  • อายุการใช้งาน: รากเทียมนั้นมีความแข็งแรง ทนทานสูง สามารถใช้งานได้ยาวนาน โดยอาจจะตลอดชีวิตหากดูแลรักษาดี ในขณะที่สะพานฟันจะมีอายุการใช้งานประมาณ 10-15 ปี
  • ความสบายในการสวมใส่: รากฟันเทียมจัยึดติดเข้ากับกระดูกเหมือนกับฟันธรรมชาติ ทำให้ไม่มีการขยับเขยื่อนตำแหน่งหรือต้องคอยมานั่งปรับสิ่งต่างๆ ในขณะที่สะพานฟันอาจรู้สึกไม่ค่อยสบายในการสวมใส่ รวมไปถึงอาจมีเศษอาหารเข้าไปติดได้ง่าย
  • ราคา: รากเทียมมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับสะพานฟัน
  • ระยะเวลาในการฟื้นตัว: รากเทียมมีระยะในการฟื้นตัวหลังรักษาเสร็จที่นานกว่าสะพานฟัน

ตัวอย่างเคสคนไข้

ติดต่อ รวมทันตแพทย์คลินิก

  • เวลาทำการ: วันจันทร์-อาทิตย์: 09:00 – 19:00
  • ที่ตั้งคลินิก: 810 ระหว่างซอยประชาอุทิศ 17-19 เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร 10140 (จากปากซอยประชาอุทิศ ให้สังเกตสะพานลอยที่ 2 เลยขึ้นมา 100 เมตร จะสังเกตเห็นรวมทันตแพทย์คลินิก)
  • จอดรถ: ตลาดนัดราษฎร์บูรณะ
  • โทร: 095-713-0027, 02-428-5814
  • LINE ID: @ruamdental